10 เทรนด์เทคโนโลยีแห่งอนาคต ปี 2025 เช่น Agentic AI, AI Governance Platforms, Disinformation  โดย Gartner

10 เทรนด์เทคโนโลยีสำคัญปี 2025 โดย Gartner: เมื่อโลกก้าวสู่ยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีครั้งใหญ่ Gartner บริษัทวิจัยและที่ปรึกษาชั้นนำระดับโลก ได้เปิดเผยรายงาน 10 เทรนด์เทคโนโลยีที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์สำหรับองค์กรในปี 2025 ในงาน IT Symposium/XPO ที่เมืองออร์แลนโด ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยครอบคลุมเทคโนโลยีที่จะเปลี่ยนแปลงโลกธุรกิจอย่างมีนัยสำคัญ

1.Agentic AI: ปัญญาประดิษฐ์ที่ทำงานอย่างเป็นอิสระ

Agentic AI คือซอฟต์แวร์อัจฉริยะที่ใช้เทคนิค AI ในการทำงานให้บรรลุเป้าหมายได้โดยอัตโนมัติ Gartner คาดการณ์ว่าภายในปี 2028 การตัดสินใจในงานประจำวันอย่างน้อย 15% จะดำเนินการโดย Agentic AI เพิ่มขึ้นจาก 0% ในปี 2024

ความสามารถหลัก:

• ทำงานได้อย่างอิสระและบรรลุเป้าหมายที่กำหนด

• เรียนรู้และปรับตัวจากประสบการณ์

• ทำงานร่วมกับมนุษย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  
  

2.AI Governance Platforms: แพลตฟอร์มกำกับดูแล AI

เป็นส่วนหนึ่งของกรอบการทำงาน AI Trust, Risk and Security Management (TRiSM) ที่ช่วยองค์กรจัดการความเสี่ยงและความปลอดภัยของระบบ AI

ประโยชน์ที่สำคัญ:

• สร้างและบังคับใช้นโยบายการใช้ AI อย่างมีความรับผิดชอบ

• อธิบายการทำงานของระบบ AI ได้อย่างโปร่งใส

• สร้างความไว้วางใจและความรับผิดชอบ

Gartner คาดว่าองค์กรที่นำมาใช้จะประสบปัญหาด้านจริยธรรมที่เกี่ยวข้องกับ AI น้อยลง 40% ภายในปี 2028

3.Disinformation Security: การรักษาความปลอดภัยจากข้อมูลเท็จ

เทคโนโลยีที่ช่วยตรวจจับและป้องกันการเผยแพร่ข้อมูลเท็จ โดยมุ่งเน้น:

• การประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมูล

• การตรวจสอบความถูกต้อง

• การป้องกันการปลอมแปลงตัวตน

• การติดตามการแพร่กระจายของข้อมูลที่เป็นอันตราย
  

Gartner คาดการณ์ว่าภายในปี 2028 องค์กร 50% จะเริ่มใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ออกแบบมาเพื่อจัดการกับความปลอดภัยด้านข้อมูลเท็จโดยเฉพาะ

4.Post-Quantum Cryptography: การเข้ารหัสยุคหลังควอนตัม

การเข้ารหัสที่สามารถต้านทานการถอดรหัสด้วยคอมพิวเตอร์ควอนตัม Gartner เตือนว่าภายในปี 2029 การเข้ารหัสแบบอสมมาตรแบบดั้งเดิมส่วนใหญ่จะไม่ปลอดภัยอีกต่อไป

ความท้าทายหลัก:

• ไม่มีทางเลือกทดแทนที่ง่ายสำหรับอัลกอริทึมการเข้ารหัสปัจจุบัน

• ต้องการการค้นพบ จัดหมวดหมู่ และการนำกลับมาใช้ใหม่

• ต้องพัฒนานโยบายเกี่ยวกับการแทนที่อัลกอริทึม การเก็บรักษาข้อมูล และกลไกการสลับหรือแก้ไขการใช้การเข้ารหัสที่มีอยู่

  
  

5.Ambient Invisible Intelligence: ความฉลาดแบบแฝงในสภาพแวดล้อม

การใช้เซ็นเซอร์และแท็กอัจฉริยะขนาดเล็กในการติดตามและตรวจสอบสถานะของสิ่งต่างๆ โดยเฉพาะในด้าน:

• การตรวจสอบสต็อกสินค้าในค้าปลีก

• การจัดการโลจิสติกส์สำหรับสินค้าที่เน่าเสียได้

• การติดตามและเฝ้าระวังในเวลาจริง

6.Energy-Efficient Computing: การประมวลผลที่ประหยัดพลังงาน

เทคโนโลยีที่มุ่งเน้นการลดการใช้พลังงานในการประมวลผล โดยเฉพาะสำหรับ:

• การฝึกฝน AI

• การจำลองสถานการณ์

• การประมวลผลที่ต้องการทรัพยากรสูง

• การแสดงผลสื่อต่างๆ

แนวทางการพัฒนา:

• การใช้พลังงานสีเขียว

• การเปลี่ยนไปใช้ฮาร์ดแวร์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

• การพัฒนาสถาปัตยกรรมและอัลกอริทึมที่ใช้พลังงานน้อยลง
  

7.Hybrid Computing: การประมวลผลแบบผสมผสานระบบที่รวมกลไกการประมวลผล การจัดเก็บ และเครือข่ายเพื่อแก้ปัญหาการคำนวณที่ซับซ้อน

ประกอบด้วย:

• CPU และ GPU แบบดั้งเดิม

• การประมวลผลที่ขอบ (Edge Computing)

• วงจรรวมเฉพาะทาง (ASIC)

• ระบบประสาทเทียมและควอนตัม

8.Spatial Computing: การประมวลผลเชิงพื้นที่

เทคโนโลยีที่เพิ่มประสิทธิภาพโลกกายภาพด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล เช่น:

• Augmented Reality (AR)

• Virtual Reality (VR)

• Mixed Reality (MR)

Gartner คาดว่าตลาด Spatial Computing จะเติบโตจาก 110 พันล้านดอลลาร์ในปี 2023 เป็น 1.7 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2033

9.Polyfunctional Robots: หุ่นยนต์อเนกประสงค์

หุ่นยนต์ที่สามารถทำงานได้หลากหลายรูปแบบ แทนที่หุ่นยนต์ที่ออกแบบมาเพื่องานเฉพาะทาง ข้อดี:

• สามารถทำงานร่วมกับมนุษย์ได้ดีขึ้น

• ติดตั้งและขยายขนาดได้ง่าย

• ปรับตัวตามสภาพแวดล้อมได้ดี

Gartner คาดว่าภายในปี 2030 80% ของมนุษย์จะมีปฏิสัมพันธ์กับหุ่นยนต์อัจฉริยะในชีวิตประจำวัน

10.Neurological Enhancement: การเพิ่มประสิทธิภาพระบบประสาท

เทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มความสามารถทางสมองของมนุษย์ผ่าน:

• การเชื่อมต่อระหว่างสมองกับเครื่องจักรแบบทางเดียว

• การเชื่อมต่อระหว่างสมองกับเครื่องจักรแบบสองทาง (BBMIs)
  

Gartner คาดว่าภายในปี 2030 30% ของแรงงานที่ใช้ความรู้จะพึ่งพาเทคโนโลยีเหล่านี้เพื่อแข่งขันกับ AI การเตรียมความพร้อมสำหรับองค์กร

1. ศึกษาและทำความเข้าใจเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง

2. ประเมินผลกระทบและโอกาสทางธุรกิจ

3. วางแผนการลงทุนและพัฒนาบุคลากร

4. สร้างพันธมิตรทางเทคโนโลยีที่เหมาะสม

5. พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้พร้อมรับการเปลี่ยนแปลง
   

สำหรับองค์กรที่ต้องการความช่วยเหลือในการประเมินและวางแผนรับมือกับเทรนด์เทคโนโลยีเหล่านี้ AlphaSec (alphasec.co.th) พร้อมให้คำปรึกษาและบริการด้านเทคโนโลยีแบบครบวงจร ด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ เราสามารถช่วยองค์กรของคุณในการ:

• วิเคราะห์และประเมินความพร้อมทางเทคโนโลยี

• วางแผนกลยุทธ์การปรับใช้เทคโนโลยีใหม่

• พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบรักษาความปลอดภัย

• ฝึกอบรมและพัฒนาบุคลากร

• ให้คำปรึกษาด้านการปฏิบัติตามกฎระเบียบและมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง

ติดต่อเราวันนี้เพื่อเริ่มต้นการเดินทางสู่การเป็นองค์กรที่พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีในอนาคต