ในยุคที่เทคโนโลยีกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต การทำ "ดิจิทัล ดีท็อกซ์" (Digital Detox) หรือการล้างพิษดิจิทัล กำลังเป็นเทรนด์สำคัญสำหรับคนทำงานที่ต้องการสร้างสมดุลระหว่างโลกดิจิทัลและชีวิตจริง
ทำไมต้องทำ Digital Detox?
จากผลสำรวจพบว่า คนไทยใช้เวลากับหน้าจอดิจิทัลเฉลี่ยวันละ 9-11 ชั่วโมง โดยเฉพาะการใช้งานโซเชียลมีเดียที่สูงถึง 95.3% ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพกายและใจหลายด้าน:
1. ผลกระทบต่อสุขภาพจิต
เกิดความเครียดและวิตกกังวล
มีอาการซึมเศร้าจากการเปรียบเทียบชีวิตในโซเชียลมีเดีย
เกิดภาวะหมดไฟ (Burnout) จากการทำงานออนไลน์ต่อเนื่อง
มีอาการ FOMO (Fear of Missing Out) หรือกลัวตกกระแส
2. ผลกระทบต่อร่างกาย
ปวดเมื่อยคอ บ่า ไหล่ จากท่าทางการใช้อุปกรณ์ดิจิทัล
เกิดอาการออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome)
สายตาเสื่อมจากการจ้องหน้าจอนานเกินไป
นอนหลับยากเพราะแสงสีฟ้าจากหน้าจอ
สัญญาณที่บอกว่าคุณควรทำ Digital Detox
รู้สึกกระวนกระวายเมื่อไม่ได้เช็คมือถือ
มีอาการโนโมโฟเบีย (Nomophobia) หรือกลัวการไม่มีโทรศัพท์มือถือ
ตรวจสอบการแจ้งเตือนบ่อยครั้งโดยไม่จำเป็น
นอนดึกเพราะเล่นโซเชียลมีเดีย
ขาดสมาธิในการทำงานเพราะต้องเช็คมือถือตลอดเวลา
5 วิธีทำ Digital Detox ให้ได้ผล
1. กำหนดช่วงเวลาปลอดดิจิทัล
ตั้งเวลาห้ามใช้มือถือก่อนนอน 1 ชั่วโมง
งดใช้อุปกรณ์ดิจิทัลระหว่างมื้ออาหาร
กำหนดวันหยุดดิจิทัล (Digital-Free Day) สัปดาห์ละ 1 วัน
2. จัดการการแจ้งเตือน
ปิดการแจ้งเตือนที่ไม่จำเป็น
ตั้งค่าโหมด Do Not Disturb ในช่วงเวลาสำคัญ
จำกัดการเช็คอีเมลและข้อความเป็นช่วงเวลา
3. สร้างพื้นที่ปลอดดิจิทัล
ห้ามนำอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เข้าห้องนอน
ชาร์จมือถือนอกห้องนอน
กำหนดโซนปลอดมือถือในบ้าน
4. หากิจกรรมทดแทน
ออกกำลังกาย
ทำสมาธิหรือโยคะ
อ่านหนังสือเล่มจริง
ใช้เวลากับครอบครัวและเพื่อน
5. ใช้หลัก 20-20-20
พักสายตาทุก 20 นาที
มองวัตถุที่อยู่ห่าง 20 ฟุต
เป็นเวลา 20 วินาที
บริการจาก AlphaSec
บริษัท AlphaSec เข้าใจความสำคัญของความปลอดภัยทางดิจิทัลและสุขภาวะของผู้ใช้งาน เรามีบริการให้คำปรึกษาด้านการจัดการความปลอดภัยทางไซเบอร์แบบองค์รวม รวมถึงการวางแผนนโยบาย Digital Wellbeing สำหรับองค์กรสนใจรับคำปรึกษาเกี่ยวกับการจัดการความปลอดภัยทางไซเบอร์และ Digital Wellbeing ติดต่อเราได้ที่ alphasec.co.th