top of page
รูปภาพนักเขียนดร.นิพนธ์ นาชิน, CISSP, CISA, CISM, GPEN, QSA, CCISO, CDMP

Lateral Movement คืออะไร? ภัยคุกคามเงียบที่องค์กรต้องระวัง!


Lateral Movement คืออะไร? ภัยคุกคามเงียบที่องค์กรต้องระวัง!
Lateral Movement คืออะไร? ภัยคุกคามเงียบที่องค์กรต้องระวัง!

Lateral Movement คืออะไร?

Lateral Movement หรือ การเคลื่อนที่แบบแนวราบ คือ เทคนิคที่แฮกเกอร์ใช้หลังจากเจาะเข้าระบบเครือข่ายได้สำเร็จ เพื่อขยายการเข้าถึงระบบอื่นๆ ภายในเครือข่ายเดียวกัน เปรียบเสมือนโจรที่งัดเข้าบ้านได้แล้ว กำลังเดินสำรวจหาทรัพย์สินมีค่าหรือห้องที่เก็บของมีค่า แฮกเกอร์จะค่อยๆ เคลื่อนที่ไปยังระบบต่างๆ เพื่อขโมยข้อมูลสำคัญ ยกระดับสิทธิ์ หรือสร้างความเสียหาย

ทำไม Lateral Movement ถึงเป็นภัยคุกคามร้ายแรง?

  • ยากต่อการตรวจจับ: Lateral Movement มักใช้เทคนิคซ่อนตัว ทำให้ระบบรักษาความปลอดภัยทั่วไปมองไม่เห็น

  • สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง: แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงระบบต่างๆ ได้มากขึ้น ยิ่งเพิ่มโอกาสในการขโมยข้อมูล ทำลายระบบ หรือแม้แต่เรียกค่าไถ่

  • ส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงองค์กร: หากข้อมูลรั่วไหลหรือระบบถูกโจมตี จะทำให้ลูกค้าสูญเสียความเชื่อมั่น และส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงองค์กรในระยะยาว

เทคนิคยอดนิยมที่แฮกเกอร์ใช้ในการทำ Lateral Movement

  • Pass the Hash (PtH): ขโมยรหัสผ่านที่ถูกแฮช เพื่อปลอมตัวเป็นผู้ใช้ที่ถูกต้อง

  • Pass the Ticket (PtT): ขโมย "ตั๋ว" ที่ใช้ยืนยันตัวตน เพื่อเข้าถึงระบบต่างๆ โดยไม่ต้องใช้รหัสผ่าน

  • Exploiting vulnerabilities: ใช้ช่องโหว่ของระบบ เช่น ช่องโหว่ของซอฟต์แวร์ เพื่อเจาะเข้าระบบอื่นๆ

  • Social Engineering: หลอกลวงพนักงาน เช่น ส่งอีเมลหลอกลวง (Phishing) เพื่อให้พนักงานเผลอกดลิงก์หรือดาวน์โหลดไฟล์อันตราย

5 ขั้นตอนของ Lateral Movement

  1. การเจาะระบบเริ่มต้น (Initial Access): แฮกเกอร์หาทางเจาะเข้าระบบเครือข่าย เช่น ผ่านช่องโหว่ของเว็บไซต์ หรือ อีเมล Phishing

  2. การสร้างฐานที่มั่น (Establish Foothold): เมื่อเข้าระบบได้แล้ว แฮกเกอร์จะพยายามสร้าง "ฐานที่มั่น" เพื่อควบคุมระบบนั้นๆ

  3. การสำรวจ (Reconnaissance): แฮกเกอร์จะสำรวจระบบเครือข่าย เพื่อหาระบบอื่นๆ ที่เชื่อมต่อกัน และ ช่องโหว่ที่สามารถใช้ประโยชน์ได้

  4. การขโมยสิทธิ์การเข้าถึง (Privilege Escalation): แฮกเกอร์จะพยายามยกระดับสิทธิ์ เช่น จาก User ธรรมดา เป็น Administrator เพื่อควบคุมระบบได้มากขึ้น

  5. การเคลื่อนที่แบบแนวราบ (Lateral Movement): แฮกเกอร์ใช้เทคนิคต่างๆ เพื่อเคลื่อนที่ไปยังระบบอื่นๆ และ บรรลุเป้าหมาย เช่น ขโมยข้อมูล ทำลายระบบ หรือ เรียกค่าไถ่

วิธีป้องกัน Lateral Movement

  • อัปเดตซอฟต์แวร์และระบบปฏิบัติการ: ติดตั้งแพตช์ความปลอดภัยล่าสุดเสมอ เพื่อป้องกันช่องโหว่ที่แฮกเกอร์อาจใช้ประโยชน์ได้

  • ใช้ระบบ Multi-Factor Authentication (MFA): เพิ่มความปลอดภัยในการเข้าถึงระบบ โดยกำหนดให้ผู้ใช้ต้องยืนยันตัวตนมากกว่า 1 วิธี

  • จำกัดสิทธิ์การเข้าถึง: ใช้หลักการ Least Privilege คือ ให้สิทธิ์ผู้ใช้เท่าที่จำเป็นในการทำงานเท่านั้น

  • แบ่งส่วนเครือข่าย: แบ่งเครือข่ายออกเป็นส่วนๆ เพื่อจำกัดการเคลื่อนที่ของแฮกเกอร์ หากระบบหนึ่งถูกโจมตี ระบบอื่นๆ จะยังปลอดภัย

  • ตรวจสอบและวิเคราะห์กิจกรรมในเครือข่าย: ใช้ระบบ Security Information and Event Management (SIEM) เพื่อตรวจจับพฤติกรรมที่ผิดปกติ และ แจ้งเตือนภัยคุกคาม

  • อบรมพนักงาน: ให้ความรู้เกี่ยวกับภัยคุกคาม และ วิธีป้องกันตัวเอง เช่น การระวังอีเมล Phishing และ ไม่ดาวน์โหลดไฟล์จากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ

AlphaSec ช่วยคุณได้

AlphaSec (alphasec.co.th) เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ พร้อมให้คำปรึกษา และ บริการครบวงจรในการป้องกัน Lateral Movement และ ภัยคุกคามอื่นๆ ด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญ และ เทคโนโลยีล่าสุด เราพร้อมช่วยองค์กรของคุณยกระดับความปลอดภัย และ ปกป้องทรัพย์สินดิจิทัล ติดต่อเราวันนี้ เพื่อรับการประเมินความเสี่ยง และ วางแผนการรักษาความปลอดภัย

ดู 7 ครั้ง

Comments


bottom of page