ในยุคที่ดิจิทัลเฟริ่มพร้อมกับกิจกรรมการฉ้อโกงที่ยิ่งขึ้น เครื่องมือที่ถูกเลือกเพื่อต้านภัยเหล่านี้จึงกลายเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง เมื่อพูดถึงความปลอดภัย "Card Verification Value (CVV)" คือคำที่หลายคนคุ้นเคย แต่ที่น่าสนใจคือการพัฒนา "Dynamic CVV (dCVV)" เพื่อตอบสนองการเปลี่ยนแปลงของวิธีการฉ้อโกงในการเงินในปัจจุบัน
ประวัติย่อของ CVV
ในปี 1995, Michael Stone จาก Equifax ได้สร้าง CVV รูปแบบแรกที่สหราชอาณาจักร โดยได้รับการทดสอบจาก Littlewoods และธนาคาร Natwest โดยไม่นาน APACS ก็เริ่มเปิดตัวรหัส CVV 3 ตัวที่นำไปใช้กันอย่างแพร่หลาย
วิธีการทำงานของ CVV
CVV ประกอบด้วย CVV1 ที่เข้ารหัสในแถบแม่เหล็กของบัตร และ CVV2 ที่เป็นรหัส 3 ตัวที่พิมพ์ด้านหลังบัตร ปกติการชำระเงินด้วยบัตรจะไม่เก็บ CVV2 และผู้ใช้ต้องป้อนข้อมูลนี้เมื่อทำธุรกรรมออนไลน์หรือทางโทรศัพท์
ความแตกต่าง ระหว่าง CVV และ PIN
ในขณะที่ PIN ใช้สำหรับธุรกรรมที่เอทีเอ็ม หรือที่ร้านค้า CVV ถูกออกแบบมาสำหรับการธุรกรรมออนไลน์หรือทางโทรศัพท์
การมาของ Dynamic CVV
dCVV เป็นการเปลี่ยนแปลงการความปลอดภัยของบัตร โดยไม่มี CVV2 ที่พิมพ์บนบัตร ผู้ถือบัตรต้องเชื่อมต่อแอปของผู้ออกบัตรเพื่อสร้างรหัสใหม่ทุกครั้งที่จะทำการซื้อ
การป้องกันการฉ้อโกงด้วย dCVV
มาตรฐาน PCI DSS ห้ามเก็บ CVV หลังการอนุมัติธุรกรรม การนำ dCVV มาใช้ช่วยลดโอกาสในการฉ้อโกง แม้แต่ถ้ามีข้อมูลบัตรถูกรู้