สตรีรายหนึ่งในประเทศเยอรมันนีเสียชีวิตระหว่างเกิดเหตุการณ์การโจมตีทางไซเบอร์ ในรูปแบบการเรียกค่าไถ่ข้อมูลหรือที่เรียกกันว่า Ransomware ดังที่เกิดเหตุเป็นข่าวดังในประเทศไทยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ซึ่งการเสียชีวิตของสตรีรายนี้ นับว่าเป็นครั้งแรกที่เกิดการเสียชีวิตที่มีสาเหตุมาจากการโจมตีทางไซเบอร์
เพราะว่าโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยดุสเซลดอร์ฟมีความจำเป็นต้องปฏิเสธการรับรักษาสตรีรายดังกล่าว
ที่มีอาการสาหัสพอสมควร เธอเลยต้องเดินทางไปอีกโรงพยาบาลนอกเมืองที่ห่างไปอีกราว 32 กิโลเมตร ก่อนจะเสียขีวิต เพราะถึงมือหมอช้าไปรวมแล้วราวหนึ่งชั่วโมง
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อ 24 ชั่วโมง ที่แล้วของวันพฤหัสบดีผ่านมาก่อนสตรีรายนั้นจะเสียชีวิต
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมของรัฐนอร์ธไรน์เวสต์ฟาเลีย กล่าวว่า การโจมตีครั้งนี้ โจรไซเบอร์ได้มีการเข้ารหัสข้อมูลเครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่ายของโรงพยาบาลกว่า 30 เครื่อง
และทิ้งข้อความการติดต่อเพื่อจ่ายค่าไถ่ ถึงมหาวิทยาลัยดุสเซลดอร์ฟซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่โรงพยาบาล สังกัดอยู่ หลังจากที่ได้มีการสืบสวนสอบสวน
โดยตำรวจได้ติดต่อไปยังโจรไซเบอร์ ผ่านข้อความที่ให้ไว้ และแจ้งว่าโจรไซเบอร์ กำลังสร้างความเสียหายให้โรงพยาบาลและขัดขวางการรักษาผู้ป่วย แทนที่จะเป็นมหาวิทยาลัยดังที่โจรตั้งใจ ทำให้โจรยกเลิกการเรียกค่าไถ่และมอบกุญแจถอดรหัสไฟล์ ให้กับโรงพยาบาลในที่สุด
ซึ่งสาเหตุโดยทั่วไปของการถูกโจมตีโดยการเรียกค่าไถ่ประกอบด้วย
1. การตั้งรหัสผ่านที่ไม่แข็งแรงเพียงพอ ตั้งรหัสผ่านที่คาดเดาได้ง่าย เช่น 123456, qwerty, password โดยรหัสผ่านที่ดีต้องมีความยาวมากกว่า 8 ตัวอักษรประกอบไปด้วย ตัวเลข ตัวอักษร อักขระพิเศษ ไม่ใช้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับตัวผู้ใช้มาตั้งรหัสผ่าน เช่น วันเดือนปีเกิด เบอร์โทรศัพท์ ชื่อสัตว์เลี้ยง ชื่อตนเอง หรือสิ่งที่ตนเองชอบ
2. โปรแกรมที่ใช้งานอยู่มีช่องโหว่แต่ไม่ยอมอัพเดทตามที่ผู้ผลิตโปรแกรมแจ้งให้อัพเดท
3. ใช้โปรแกรมเถื่อน ของฟรีไม่มีในโลก มักมีของแถม เช่น ไวรัส โปรแกรมดักจับพฤติกรรม และ Ransomware มาด้วยเสมอ
4. ขาดความตระหนัก ไม่ระมัดระวัง ประมาททางไซเบอร์
ที่มา : https://www.theverge.com/2020/9/17/21443851/death-ransomware-attack-hospital-germany-cybersecurity